คำนำ

การปฏิวัติในการพัฒนาระบบการขนส่งทำให้ทุกคนสามารถเดินทางไปที่ไหนบนโลกก็ได้ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
การปฏิวัติในด้านไอทีทำให้การติดส่อสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกเป็นไปได้อย่างง่ายดาย การพัฒนายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนอีกมากมายที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโลกที่ “ไร้การขวางกั้น”ได้อย่างเต็มที่เพราะขีดจำกัดต่างๆ เช่น ศาสนา วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม หรือเชื้อชาติ

เรามีเป้าหมายที่จะขยายไปให้ทั่วทุกมุมโลก แม้แต่ตรอกซอกซอยเล็กๆที่มีผู้คนอาศัยอยู่ และพยายามที่จะบริการเพื่อให้ผู้คนได้ยิ้มแย้มกันอย่างมีความสุข.

เราคาดหวังว่าการแบ่งปันอุดมการของ Yathar group จะทำให้เราได้บรรลุถึงโลกที่ไร้การขวางกั้นอย่างแท้จริง.

1.ความไร้พรมแดน
1.สิ่งที่เรียกว่า common sense คือผลการรวมกันของ “อคติ” ที่สั่งสมมาเรื่อย ๆ จนถึงอายุ18ปี ซึ่งสิ่งเหล่านั้นอาจจะขัดแย้งกับความคิดเห็นของคนอื่นได้ ความอคตินี้สามารถส่งผลกระทบระหว่างประเทศได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเรามาลบล้างกรอบความคิดเหล่านั้นแล้วหันมามองจากหลายๆมุมหลายกันดีกว่า

2.สร้างโอกาสด้วยการศึกษาในด้าน การเมือง เศรษกิจ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม

3.ลบเส้นกั้นในหัวใจเลิกแบ่งพักแบ่งพวก ไม่ว่ากันกับระดับบุคคลหรือองค์กร เรามีเป้าหมายที่จะมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้มีสิทธิในการเลือกความสุขของตัวเองไม่ว่าจะเป็นภายใต้สภาพแวดล้อมแบบใดก็ตาม

4.เมื่ออยู่ต่างประเทศเราควรมองตัวเองเป็นตัวแทนของประเทศนั้น ๆ จงมีความภาคภูมิใจในประเทศของตนเองและเคารพประเทศอื่นในเวลาเดียวกัน และจงปฏิบัติตนให้เหมาะสมในฐานะตัวแทนของประเทศ

5.ขยายมุมมองของตัวเอง ในยุคนี้แม้แต่ Start up ก็สามารถสร้างจรวดไปท่องอวกาศได้ หากมองดี ๆ เราจะสามารถหาผลประโยชน์จากเสาอากาศและจานดาวเทียมที่มีอยู่ทั่วโลกได้
2.คติประจำใจ
1.ลงมือทำโดยไม่สนใจความเสี่ยง ไม่มีการตัดสินใจไหนที่ไม่มีความเสี่ยง การตัดสินใจในตอนนี้อาจเป็นการจัดการกับความเสี่ยงในอนาคต

2.เราบริการด้วยความประณีตเหมือนการเขียนจดหมายให้กับคนสำคัญ ไม่ว่าเราจะบริการได้ดีขนาดไหนถ้าการกระทำของเราไม่สามารถทำให้เขายิ้มได้เราก็ยินดีที่จะให้คนอื่นหรือบริษัทอื่นรับช่วงต่อแทน

3.เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง เพราะส่วนใหญ่กว่า70%มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สัญชาตญาณคือสิ่งที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ฉะนั้นจงเรียนรู้ในทุกครั้งที่มีโอกาส สั่งสมความรู้และประสบการณ์

4.จงอย่าป้องกัน(การยอมแพ้ถอยหลัง)เพราะการโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด

5.เราอยู่ด้วยกันเป็นทีม เมื่อนำความแตกต่างมารวมกัน พลังนั้นจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งกว่าที่คาดหมาย ขอให้จำไว้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของทีมเสมอ

6.ความละเอียดคือทุกอย่าง การบริการด้วยความระมัดระวังและแม่นยำเป็นเหมือนงานศิลป์ที่มอบรอยยิ้มให้แก่โลกใบนี้ มาร่วมกันสร้างผลงานที่ละเอียดอ่อนและสวยงามเพื่อพิชิตหัวใจของผู้คนกันเถอะ

7.ขอให้ระวังเรื่องจังหวะโอกาส น้ำขึ้นให้นรีบตัก

8.ไขว่คว้าคุณค่าและเทคโนโลยีที่แปลกใหม่ที่ไม่มีใครคาดถึง ไม่ถูกจำกัดอยู่ในกรอบความคิดเดิม ๆ

9.จิตนาการสำคัญกว่าความรู้ เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราสามารถไปถึงจุดที่ฝันไว้ได้

10.สมการของความเห็นใจควรเป็น “ตรรกะ X ความรู้สึก” ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งขาดไป แค่ความสงสารอย่างเดียวไม่เพียงพอ สินค้าและบริการที่จะเข้าถึงหัวใจคน ต้องถูกสร้างด้วยการใส่Passionเข้าไปในระบบที่มีLogicที่ชัดเจน
3.เทคนิค
1.ทำให้แน่ใจว่าวงจร PDR หมุนไปได้อย่างรวดเร็วที่สุด PDR ย่อมาจาก Prepare(เตรียมตัว)→Do(ลงมือ)→Review(ทบทวน) ไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงรายละเอียด ลงมือและทบทวนด้วยความเร็วเพื่อเพิ่ม momentum ให้กับธุรกิจ

2.มาร่วมแบ่งปันความรู้ในscaleระดับโลก จัดระบบระเบียบความรู้ที่ได้รับจาก Project ทำให้แน่ใจว่าเราแบ่งปันความรู้นี้กับบริษัทแบบ know-how เพราะคนที่มีความสามารถตรงนี้มีมูลค่ามหาศาลกับองค์กร ตระหนักที่จะเรียนรู้และจัดระบบการทำงาน

3.ความเห็นและข้อข้องใจของลูกค้าเป็นข้อมูลที่มีค่า จงรับฟังอย่างเปิดใจและเรียนรู้จากมัน

4.ปฏิบัติลงมือจัดการ Todo กำหนด deadline และวางแผนสิ่งที่ต้องทำให้เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนทำกำหนดการให้คนอื่นสามารถรู้เห็นด้วยได้

5.ใช้ความพยามเพื่อให้มีโอกาสเจรจาต่อรองกับกับคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ

6.เฝ้าศึกษาจากสังเกตการจัดการที่รวบรัด การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องมาจากคนที่เป็นอัจฉริยะหรือมีการศึกษาสูงกว่าคนปกติทั่วไป

7.สมองจะเริ่มอ่อนล้าในช่วงบ่ายเพราะฉะนั้นทำงานที่อาศัยการใช้สมองหนัก ๆ ในช่วงเช้าและทำงานที่จำเจและผ่อนคลายในช่วงบ่าย

8.ให้จัดลำดับความสำคัญเป็น 1.เพิ่มการขายสร้างรายได้ 2.พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน 3.ให้สะดวกสบายถ้าเป็นไปได้

9.การประชุมที่ไร้ความหมายอาจส่งกระทบต่อความมุ่งมั่นของพนักงานได้ จงระลึกไว้ว่าการประชุม 1 ชั่วโมงของคน 8 คน เท่ากับเวลาทำงานในหนึ่งวันของคน ๆ หนึ่ง

10.วางเป้าหมายการประชุมให้ชัดเจน เช่นการตัดสินใจ การไขข้อข้องใจ กำหนดเป้าหมาย หรือจัดการปัญหาและควรแชร์ข้อมูลส่วนสำคัญล่วงหน้า ไม่ควรจัดการประชุมเพื่อการ แชร์ข้อมูลเพียงเท่านั้น

11.หลังการประชุมทุกครั้งควรทำ Todo, deadlineให้กับทุกงาน และกำหนดวันประชุมครั้งถัดไป เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างรวดเร็วแล้วแชร์ให้กับบริษัท วางแผนการประชุม และติดตามผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
4.ความคิด
1.ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง แม้เป็นคนนอกกรอบไม่ใช่ปัญหา ขอให้มีสติตลอดเวลาไม่ผ่อนคลายเกินไป และคอยพัฒนาตัวเองอยู่เสมอๆ

2.พวกเราไม่ย่อท้อต่อสถานการณ์ที่ยากลำบาก บททดสอบเหล่านี้จะทำให้เราพัฒนามากขึ้น

3.เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นหรืออดีตได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและอนาคตได้ เราอยู่เพื่ออนาคตที่สดใสกว่าโดยไม่ถูกเหนี่ยวรั้งด้วยอดีตหรือความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต

4.ไม่ควรจริงจังเกินไป มีการปล่อยวาง และเล่นตลกขบขันไปด้วย

5.เราเคารพเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และลูกทีมทุกคน เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน

6.เราไม่ควรติดนิสัยที่ต้องการพัฒนาแค่ส่วนบุคคล เหมือนการรับสารอาหารที่ทำต่อไปได้เรื่อย ๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก เพื่อเติบโตไปสู่ความสำเร็จ นั่นแหละคือกุญแจสู่ความสำเร็จ

7.ใครก็สามารถมีโอกาสได้ แต่คนที่มีความพร้อมที่จะคว้าโอกาสเท่านั้นที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านั้นได้ ฉะนั้นเราควรเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ

8.เราริเริ่มที่จะทำสิ่งดี ๆ เช่น การเก็บขยะ ทำความสะอาด การจัดระเบียบ เพราะความไม่เป็นระเบียบในจุดเล็กๆอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะลุกลามไปทั่วองค์กรโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ พวกเราควรคิดถึงทฤษฎี Broken window theory อยู่เสมอ

9.คนที่ไม่สามารถทำให้คนใกล้ตัวมีความสุขได้จะไม่สามารถทำให้โลกที่มีความสุขได้ เราควรมีชีวิตอยู่เพื่อความสุขของครอบครัว คนรัก และเพื่อนสนิท

10.คนที่ใกล้ตัวที่สุดคือตัวเราเองอย่าลืมที่จะรักและใช้ชีวิตของตัวเองด้วย
มาร่วมกันแบ่งปันแนวคิดของ Yathar Group Corporate ให้กับทุกคนในองค์กรเพื่อที่เราจะได้เดินทางร่วมกันไปสู่ความสุขของ ครอบครัว เพื่อน ๆ และทุก ๆ คนบนโลกใบนี้
มาร่วมแบ่งปัน "yathar group corporate" ร่วมกับพนักงาน เพื่อร่วมตระหนักถึงความสุข
สำหรับครอบครัวคนสำคัญของเรา เพื่อน และ โลกใบนี้
philosophy.sec4_key2